วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข้อคิดสำหรับเรือตกปลา

ปัจจุบันมีเรือประมงจำนวนไม่น้อยที่ผกผันหันมาทำอาชีพทำ เรือตกปลา อันเนื่องมาจากหลายๆสาเหตุ มีทั้งที่ประสพความสำเร็จโชติช่วงชัชวาลและเงียบเหงาเศร้าสร้อย จากประสพการณ์ที่ผมได้คลุกคลีกับวงการเรือตกปลามาพอสมควร พอจะเจอจุดอ่อนของเรือตกปลาบ้าง แต่ไม่ใช่ทุกลำ.
1. ไต๋หาเหยื่อไม่ได้ ปัญหาโลกแตกครับ เพราะ แขกอยากได้เหยื่อเป็นๆ เยอะๆ แต่จะไปหวังอะไรกับทะเล แล้วลองใคร่ควรดูว่ามีไต๋ที่ไหนไม่อยากให้แขกได้เหยื่อบ้าง เพราะการได้เหยื่อเป็นส่งผลถึงการได้ปลา (แต่..มีบางไต๋ เปิดไฟไดร์เหยื่อไว้ให้แล้วหลับตลอด ทั้งคืนตื่นมาหรี่ไฟคลอบหมึกทีเดียว)
2.เข้าใจผิดเรื่องหมาย ปัญหาโลกแตกอีกเหมือนเดิม เพราะในทะเลไทยทั่วประเทศ มีหมายตกปลาที่เรียกชื่อซ้ำๆกัน เช่น หมายเรือจม
 หมายนอก ก่อนอื่นต้องถามต่อไปว่า หมายเรือจมไหนล่ะ ทะเลไทย มีหมายเรือจมเป็นร้อยๆพันๆหมาย
หมายนอกก็เหมือนกันครับ ฉะนั้นต้องตกลงกันให้รู้เรื่องตั้งแต่เริ่มจะจองเรือว่าจะไปหมายไหน วิ่งกี่ชั่วโมงจากจุดหมาย อย่าบอกหรือเรียกเป็นไมล์เด็ดขาด เพราะแขกบางคนเขารู้ไมล์หนึ่งในทะเลมันไปไกลแค่ไหน      3. เครื่องอำนวยความสะดวกไม่ครบ      บางทีน้ำไม่พออาบ แก็สหมด สาเหตุเพราะแขกที่เพิ่งขึ้นไปใช้ไปเยอะ ไต๋ก็ลืมเติม  4.ถือไม่เหมือนกัน   เคยได้ยินคำว่า"คนไทยเขาถือ"ไหมครับ
เรือบางลำห้ามโน่นห้ามนี่ ห้ามนั่น เช่น ห้ามนั่งบนโขน ห้ามคว่ำเข่ง ห้ามนำกล้วยลงเรือ  (อีกหน่อยอาจห้ามถ่ายรูปด้วย)    อย่าลืมว่าแขกที่มาลงเรือเขาไม่ใช่เด็กเรือ ที่มาจากเขมร พม่า ฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิ์ตะคอกแขกว่าคว่ำเข้งทำไม เรือลำนี้ไม่มีอะไรคว่ำ( อ้าว..แล้วจุมโพ่มันล้างจานแล้วคว่ำทำไมวะ  ) 

กีฬาตกปลา

การตกปลาถือเป็นกีฬาอย่างหนึ่ง มีแพ้ มีชนะ มีอภัย เหมือนกับกีฬาทั่วๆไป อยากเป็นผู้ชนะก็ต้องหมั่นฝึกฝนวรยุทธให้สูงส่งอยู่เสมอ อย่าถือว่าตัวเองเก่ง เพราะปลาแต่ละที่กินเหยื่อไม่เหมือนกัน  แล้วต้องตระหนักด้วยว่าปลา คือของที่อยู่ใต้น้ำ
เราไม่สามารถไปกำหนดได้ว่าวันนี้จะได้เท่าไร